วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การเลือกซื้อ การ์ดจอ


 1. หน่วยความจำ ไม่ใช่ทุกอย่าง

           เรื่องจริง การ์ดจอตอนนี้มาพร้อมกับหน่วยความจำจำนวนหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ 128 256  512 หรือ แม้แต่รุ่นสูงมากๆซึ่งหน่วยความจำเหล่านี้จะช่วยได้มากในเรื่องของความ ละเอียด ซึ่งการ์ดจอรุ่นสูงๆนั้นมักจะมาพร้อมกับหน่วยความจำจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะว่า หากหน่วยความจำไม่พอละก็ GPU ของ ก็จะเป็นด้วยประสิทธภาพเลยทีเดียว หากต้องการการประมวลผลจำนวนมาก ซึ่งผู้ผลิตการ์ดจอทราบดีว่าผู้ที่เลือกซื้อการ์ดจอนั้นมักจะมองหาการ์ดที่ มีหน่วยความจำสูงๆเพื่อเปรียบเทียบการ์ด โดยหากเราสังเกตดีๆในท้องตลาด   การ์ดรุ่นต่ำๆนั้นให้หน่วยความจำมา 256 หรือไม่ก็ 512 MB กันเลยทีเดียว เพื่อที่จะลดความเร็วของหน่วยประมวลผลลง โดยอาจจะดูดีเมื่อมองไปที่เสปคของการ์ด  ให้หน่วยความจำมาตั้งเยอะแยะ แต่ประสิทธิภาพที่แท้จริงของมันจะปรากฏเมือเริ่มเล่นเกม

 2. ทั้งหมดอยู่ที่ GPU

           หน่วยความจำสำคัญก็จริง แต่หัวใจของการ์ดจริงๆนั้นจะอยู่ที่หน่วยประมวลผลกราฟิก  เมื่อค้นหาชื่อของการ์ดจอนั้น สิ่งสำคัญสิ่งแรกให้ดูไปที่ชนิดของ GPU ว่ามาจาก NVIDIA หรือ ATI หรือเปล่า แต่ก็ไม่เพียงพอหรอกหากจะดูแค่ว่ามากจาก NVIDIA Geforce หรือ ATI Radeon เท่านั้น   จำเป็นต้องดูที่รุ่นของการ์ดด้วยซึ่งรุ่น  จะบอกเราได้ว่าการ์ดตัวนี้จะมีราคาเท่าไหร่ ตั้งแต่ 2000 กว่าบาท จนถึง 20000 กว่าบาทเลย  แม้ว่าจะมาจากชื่อ Geforceหรือ Radeon เหมือนๆกัน ซึ่งรุ่นสูงกว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากรุ่นแล้วก็ยังมีรหัสต่อท้าย อย่างเช่น GT, GS, GTX, XT และ XTX ซึ่งตัวหนังสือเหล่านี้  เป็นตัวบอกถึงรุ่นของ Shader และความเร็วในการทำงาน

 3.ไปป์ไลน์ เชดเดอร์ และความเร็วในการประมวลผล

           ต้องดูในความเร็วหน่วยความจำของ GPU และจำนวนพิกเซลไปป์ไลน์ ซึ่งจำนวนไปป์ไลน์ที่มากกว่า แสดงได้ถึงการส่งผ่านข้อมูลที่มากกว่าในการทำงานแต่ละครั้ง  จะเห็นได้ว่าการ์ดจอในรุ่นต่ำๆนั้นจะมีพิกเซลล์ไปป์ไลน์จำนวน ไปป์ไลน์ รุ่นกลางนั้นจะมี 8-12 ไปป์ไลน์ และรุ่นสูงๆนั้นจะมีตั้งแต่ 16 ไปป์ไลน์ขึ้นไป และแน่นอนความเร็วก็มีผล แต่หากเปรียบเทียบระหว่างไปป์ไลน์กับความเร็วของคล๊อกนั้น ให้เลือกไปป์ไลน์เป็นหลัก   เช่นหากการ์ดชนิด400 เมกกะเฮิร์ต ซึ่งมี ไปป์ไลน์ จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการ์ดที่มี ไปป์ไลน์ที่ความเร็ว 500 เมกกะเฮิร์ต

 4. วินโดวส์วิสต้า และ Direct X 10

           ไมโครซอฟท์มีแผนการจำหน่ายระบบปฏิบัติการ Windows Vista ในต้นปี 2007 ที่จะถึงนี้ ระบบปฏิบัติการใหม่นี้จะมีฟีเจอร์หลักตัวหนึ่งคือ DirectX 10 ซึ่งรวมเอาฟังก์ชั่นใหม่ๆของเกมยุคหน้า แม้ว่า Vista ยังคงทำงานกับการ์ด DirectX 9 ในตอนนี้ได้ แต่การ์ดที่สามารถรัน DirectX 10 ได้เพื่อให้มีประสิธิภาพสูงสุด  ทาง NVIDIA และATI เองนั้นก็ออกการ์ดของที่สนับสนุน DX10 ในช่วงปลายปี แต่ไม่ต้องกลัวว่าการ์ดที่ซื้อในตอนนี้นั้น  จะไม่สามารถที่จะเล่นเกมรุ่นใหม่ได้ และมีปัญหากับความเข้ากันได้ กว่าที่ระบบทั้งหมดจะปรับตัวให้เข้าที่เข้าทาง นักพัฒนาทำเกมสำหรับ DX10 ออกมานั้นก็กินเวลา 2-3 ปี โดยประมาณอยู่แล้ว ดังนั้นเกมในตอนนี้และอีกสองสามปีข้างหน้านั้นจะยังคงสามารถทีจะทำงานกับ การ์ดจอได้อยู่ต่อไป ซึ่งเห็นได้ว่าแม้เกมใหม่ๆอย่าง Halo 3 และ Shadowrun นั้นก็สนับสนุนทั้ง DX9 และ DX10 พร้อมๆกัน และยังคงเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยไปสักพักหลังจากที่วิสต้าออกมาแล้วก็ตาม
 5. คุณซื้อการ์ดได้ทุกเวลาเลย

           จากการที่ NVIDIA และ ATI เป็นคู่กัดกันในด้านของการทำการ์ดจอมาตลอดนนั้นทำให้การ์ดจอนั้นออกมาในตลาดบ่อยมาก โดยปกติมักจะออกรุ่นใหม่มาราวๆทุก 12-18 ดือ นซึ่งก็จะเพิ่มประสิทธิภาพของการ์ดทั้งความเร็วคล็อก และเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆเข้าไป และด้วยการที่เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆอย่างเช่น H.264 แบบไฮเดฟฟินิชั่นและ Shader Model แบบ Advance ออกมา อาจจะต้องรออย่างน้อย ปีถึงจะให้เทคโนโลยีเหล่านี้แพร่หลาย  จึง มีเวลาดีตลอดเวลาในการที่จะเลือกซื้อการ์ดจอ โดยไม่ต้องรอ ราคาของการ์ดจอนั้นจะตกเร็วมากหากมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมา ซึ่งสามารถที่จะใช้การ์ดจอในการเล่นเกมโปรดของได้ต่อไปอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ 2-3 ปี

 6.ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อซื้อการ์ดจอ

           การ์ด จอรุ่นใหม่ๆที่ออกมาตอนนี้นั้นในรุ่นสูงๆจะมีราคาราวหมื่นถึงสองหมื่นบาท โดยสามารถหาการ์ดในรุ่นก่อนหน้าที่เป็นรุ่นสูงของมันซื่งสนับสนุนเทคโนโลยี ที่เกมในปัจจุบันใช้กันอยู่ได้ในราคา 6000-10000 บาท  ให้ลองตรวจสอบไปป์ไลน์และความเร็วของคล็อกเพื่อเปรียบเทียบการ์ดจากเทคโนโลยีในยุคที่ต่างกัน โดย  จะเห็นว่าบางครั้งมันค่อนข้างเหมือนกันเลยทีเดียว

 7. มีพาวเวอร์เพียงพอ

           ให้ ลองตรวจสอบเคสก่อนว่ามีตัวจ่ายไฟหรือพาวเวอร์ซัพไพลในการจ่ายไฟให้การ์ดจอ เพียงพอหรือไม่ เพราะว่าการ์ดจอรุ่นใหม่ ๆ เป็นตัวดูดไฟ หรือค่อนข้างจะกินไฟพอสมควร   ผู้ผลิตมักจะบอกความต้องการไฟไว้ข้างกล่องของตัวการ์ดเสมอ  การ์ดจอรุ่นสูงๆ  มักต้องการพาวเวอร์ซัพพลาย 400 วัตต หรือ 450 วัตต์ หากเป็นการ์ดอบบคู่เช่น SLI หรือ CrossFire นั้นอาจจะต้องการพาวเวอร์ซัพพลายมากถึง 550 วัตต์เลยทีเดียว

 8. AGP หรือ PCI Express

           ตัวของ PCI Express ได้เข้ามาแทนอินเทอร์เฟสแบบ AGP โดยสมบูรณ์แบบ โดยมีแบนวิธมากกว่า AGP ถึง2-4 เท่าและการ์ดจอรุ่นใหม่โดยมากจะมาแบบ PCI Express ทั้งนั้น แม้ว่าการ์ดบางรุ่นจะทำมาสำหรับ AGP เพื่อคนที่ใช้อยู่แล้วจะอัพเกรด   แต่หากซื้อการ์ดจอใหม่เราแนะนำ PCI Express

 9. SLI และ Crossfire

           หากต้องการการ์ดคู่ในการทำงานหรือเล่นเกม เมื่ออัพเกรดการ์ดเป็นการ์ดคู่  อย่าลืม  SLI และ CrossFireซึ่ง แน่นอนว่าประสิทธิภาพที่ได้นั้นจะต้องมากกว่าการ์ดเดี่ยวอย่างแน่นอน โดยอาจจะต้องการเมนบอร์ดที่ออกแบบมาเฉพาะ และพาวเวอร์ซัพพลายที่เพียงพอ  NVIDIA และ ATI แข่งกันมากเรื่องของการ์ดคู่ โดย NVIDIA นั้นจะมี SLI (Scalable Link Interface) เป็นหัวหอก และ ATI จะมี CrossFire การ์ดที่จะเลือกมาทั้ง SLI และ CrossFire นั้นจะต้องเป็นการที่ระบุว่าสามารถใช้ SLI หรือ CrossFire ได้ รวมถึงเมนบอร์ดต้องสนับสนุนด้วย

 10 ซื้อการ์ดจอต้องได้การ์ดจอ

           เลิกคิดถึงระบบประมวลผลกราฟิกแบบออนบอร์ดไปได้   หากเลือกซื้อทางอินเตอร์เน็ต หรือต้องการระบบดีๆเพื่อมาเล่นเกมโปรดหรือทำงานกราฟิกแบบหนักหน่วง   ปิดบราวเซอร์ไปได้เลยหากเจอคำว่า Integrated Graphicหรือ Graphic On Board เพราะหากเลือกแบบนี้มา   มันก็เพียงพอสำหรับการใช้งานพวก Word หรือเล่นอินเตอร์เน็ตเท่านั้น  และหากต้องการจะเล่นเกมมันก็สามารถเล่นได้เพียงความละเอียด 800 x 600 ที่ 15 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น